เรื่องจริงที่เปี่ยมสุขและปวดร้าวใจของคนรักสุนัข เมื่อสุนัขที่น่าสงสารตัวหนึ่งได้รับการกู้ชีวิตจากสถานสงเคราะห์สัตว์โดยผู้เขียน ซึ่งรับเจ้าตูบมาเลี้ยงที่บ้าน และผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นด้วยเวลาอันสั้น…รวมทั้งเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันก็แสนสั้นด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ มาร์ค เลวิน จะมีชื่อเสียงในฐานะนักกฎหมายรัฐธรรมนูญและนักจัดรายการวิทยุระดับประเทศ แต่ก็เป็นคนรักสุนัขตัวยงระดับหัวแถว ในปีพ.ศ. 2541 เขากับครอบครัวได้ต้อนรับสุนัขพันธุ์ผสมบอร์เดอร์ คอลลี่/ลูกผสมค๊อกเกอร์ สเปเนียลเข้ามาในชีวิต และตั้งชื่อให้ว่า เป๊ปซี่ หกปีต่อมา ภรรยาและลูกชายรบเร้าเขาให้รับสุนัขพันธุ์ผสมสเปเนียลจากสถานสงเคราะห์สัตว์มาเลี้ยง กลายเป็นว่าเจ้าตูบมีอายุมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรก แต่ก็เป็นสุนัขที่สง่างามที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็น และถูกตั้งชื่อว่า สไปรท์
สไปรท์กับเป๊ปซี่สนิทกันอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ทำทุกอย่างร่วมกัน ตั้งแต่คุ้ยถังขยะไปจนถึงต้อนรับคนส่งของด้วยเสียงดังลั่น ครอบครัวเลวินหลงรักเจ้าสไปรท์จากความอ่อนโยน ใบหน้าที่ดูสง่าและขนที่นุ่มน่ากอด แต่ในคืนฮาโลวีนหลังจากย้ายมาอยู่ในบ้านได้ไม่นาน จู่ๆ สไปรท์ก็ล้มฟุบจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ นี่เป็นครั้งแรกของอีกหลายๆ ครั้งที่ตามมา และเป็นการเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนานของครอบครัวเลวินที่เต็มไปด้วยความสุขและปวดร้าวใจ
ในช่วงสองปีต่อมา สไปรท์และเป๊ปซี่ก็สนิทกันจนแยกกันไม่ออก ความผูกพันของสไปรท์กับครอบครัวเลวินนั้นหยั่งลึกนัก ทั้งเพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน และแม้แต่ผู้ฟังวิทยุของมาร์คต่างรู้จักและรักสไปรท์เป็นอย่างดี เมื่อลูกสาวของมาร์ควัย 16 ปี และลูกชายอายุครบสิบห้า สุขภาพของสไปรท์ก็ทรุดหนัก แต่กำลังใจของเจ้าตูบยังคงเต็มเปี่ยม และความสง่างามก็ยังอยู่คู่กาย ปลายปีพ.ศ. 2549 ครอบครัวเลวินต้องกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ยังความโศกเศร้ามาสู่มาร์คจนต้องหันไปพึ่งครอบครัว เพื่อนฝูง และแฟนรายการ
แต่แล้วความหวังใหม่ก็เข้ามาหา เมื่ออย่างน้อยครอบครัวเลวินเชื่อว่าความหวังจะต้องเกิดขึ้น
สไปรท์ กู้ชีวิตเพื่อนขนปุย คือการเพ่งพิจิจถึงความรักระหว่างครอบครัวหนึ่งกับสุนัขตัวหนึ่ง…ตัวที่ค่อยๆ แสดงให้เห็นว่า “ในท้ายที่สุด มนุษย์เรานี่เองคือผู้โชคดี”